กลยุทธ์ของ

กลยุทธ์ของ โดยใช้ตัวชี้วัด ฐานการตัดสินใจเสมอราคา / แผนภูมิปริมาณ ทุกตัวบ่งชี้ที่ไม่สามารถสรุปข้อมูลที่มีอยู่แล้วสามารถมองเห็นได้ในชาร์ต ในขณะที่มีประโยชน์สำหรับการเน้นรูปแบบในราคาและพฤติกรรมของปริมาณตัวชี้วัดที่ไม่สามารถเปลี่ยนความลึกของข้อมูลในแผนภูมิเดิม เมื่อคุณสรุปข้อมูลคุณเสียสละบางส่วนของคุณสมบัติเพื่อเน้นคนอื่นเป็นอันขาด ตัวบ่งชี้เพื่อไม่ให้ภาพเต็ม ตัวชี้วัดมีสองวัตถุประสงค์หลัก ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกรองเมื่อคัดกรองหุ้น; และ เพื่อทำหน้าที่เป็นรูปแบบของบทสรุปผู้บริหารก่อนที่จะตรวจสอบราคา / ปริมาณแผนภูมิในรายละเอียด 3A%2F%2Fincrediblecharts%2Ftechnical%2Ftrading_strategy. phpreferer=http%3A%2F%2Fincrediblecharts%2Fcb=65a5739eb5" /% ทำทุกอย่างส่วนลดชาร์ต? คุณมักจะเห็นนักวิเคราะห์ทางเทคนิคการทำซ้ำมนต์: ทุกสิ่งที่ชาร์ตส่วนลดเป็นอันขาด และข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาดคือภาพสะท้อนในราคาปัจจุบัน ผมเชื่อว่าตลาดมักจะใช้เวลาในการตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ เราไม่ได้จัดการกับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถตรวจจับและวิเคราะห์ผลกระทบเต็มรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงนาทีในสภาวะตลาด ตลาดจะถูกผลักดันโดยจิตวิทยามวลชนและพัลส์ที่มีการลดลงและการไหลของอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ อารมณ์อาจจะตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อเหตุการณ์มาก แต่ค่อยๆเปลี่ยนได้ตามปกติเมื่อเวลาผ่านไป บุคคลที่มีความสะดวกสบายไม่ค่อยทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว: ตลาดถูกครอบงำโดยสัญชาตญาณฝูงใหญ่ เศรษฐกิจ โดยประเมินตัวเองของสภาวะตลาดที่คุณสามารถเรียนรู้ที่จะคาดการณ์การเคลื่อนไหวในวงกว้างของตลาด การศึกษาสภาพตลาดโดยทั่วไปโดยเฉพาะอุปสงค์และอุปทานของเงินที่ไดรฟ์ราคาในตลาด หากมีเงินที่จะซื้อหุ้นที่ไม่มีราคาจะลดลง ในทำนองเดียวกันถ้าตลาดจะจมอยู่ใต้น้ำด้วยเงินราคามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น การคาดการณ์ พยายามหลีกเลี่ยงการคาดการณ์ ตลาดสามารถไปขึ้นหรือลงในเวลาใด ๆ & mdash; มันก็เป็นเพียงความน่าจะเป็น (ของการย้ายแต่ละ) ที่แตกต่างกันไป เมื่อคุณทำให้การคาดการณ์คุณอาจล็อคตัวเองในตำแหน่งและจะเปิดน้อยที่จะมีหลักฐานว่าคุณผิด พยายามที่จะขจัดอคติโดยนำเสนอทั้งสัญญาณที่เป็นไปได้ (วัวและหมี) ทุกที่ในทางปฏิบัติ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอน วิธีการของฉันคือการกำหนดความน่าจะเป็นที่จะเป็นไปได้ในแต่ละผล การกำหนดอัตราร้อยละที่เกิดขึ้นจริงจะบ่งบอกถึงระดับของความแม่นยำที่มากที่สุดของเวลาเป็น unachievable ข้อตกลงและเงื่อนไขที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมากขึ้น: นี่คือสัญญาณที่แรง; นี้มีแนวโน้มที่; คาดว่าจะปฏิบัติตาม; นี้มีโอกาสน้อยที่จะเกิดขึ้น; นี้ไม่น่า; เป็นต้น จำไว้ว่ามีบางครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดอยู่ในภาวะสมดุลเมื่อเราอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่มีความน่าจะเป็นหลายแม้เป็นธรรม การวิเคราะห์ยังถูกแยกออกเป็นสามกรอบเวลา: ระยะสั้นกลางและระยะยาว ขณะที่หนึ่งกรอบเวลาที่อาจจะมีความชัดเจนอีกอาจจะมีความไม่แน่นอน เห็นได้ชัดว่าเรามีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความสำเร็จเมื่อทั้งสามกรอบเวลาที่มีความชัดเจน